ไม่กี่วันมานี้ผมเอ่ยปากกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการตำบลสายนาวัง
ว่าการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
แท้แล้วก็คือการหาวิธีใช้ประโยชน์จากน้ำอย่างเพียงพอและยั่งยืนนั่นเอง
ผมไปถึงที่นั่นกับคุณนคร นาจรูญ
ในฐานะคณะทำงาน CCAI[1] ในประเทศไทย
ย่ำค่ำของคืนขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือนสิบสองทางจันทรคติ เพื่อเยี่ยมเยียนคุณบำรุง คะโยธา
นายก อบต.สายนาวัง อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์
พบปะกับคณะกรรมการน้ำตำบลชุดแรกและน่าจะเป็นแห่งแรกของตำบลในประเทศไทย
เพื่อตระเตรียมการประชุมถอดถอนบทเรียนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำชีโดยองค์กรลุ่มน้ำ
ที่เรากำลังทำงานร่วมกับ IUCN[2]
บรรยากาศการสนทนาแบบไม่เป็นทางการแต่ลึกล้ำด้วยเนื้อหาสาระที่ไม่ต้องตระเตรียมและเรียบเรียงล่วงหน้า
ผมเอ่ยถ้อยคำข้างต้นในห้องประชุม
อบต.สายนาวัง ในเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเราปรึกษาหารือกันค่อนข้างเป็นทางการ
แต่ใจผมหวนคำนึงไปถึงกิจกรรมการส่งเสริมปลูกผักปลอดสารเคมี ที่อำเภอซำสูง
จังหวัดขอนแก่น ที่มีนายไกรสร กองฉลาด เป็นนายอำเภอ (จะย้ายไปดำรงตำแหน่ง
นภอ.กระนวน แทนนายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ในเร็ววันนี้)
ทำไมหรือครับ?
เพราะที่อำเภอซำสูง จังหวัดขอนแก่น
เขามีกิจกรรมส่งเสริมปลูกผักปลอดสารเคมี ส่งขายในตลาดเมืองขอนแก่น
เช่นซุบเปอร์มาร์เก็ตในห้างเซ็นทรัล คอมเพล็กซ์เซ็นเตอร์ ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
เป็นต้น
ผมถือว่านี่คือการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของจริง
คือรู้จักใช้ทรัพยากรน้ำที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ในวิถีการดำรงชีวิต
ร่วมกับทรัพยากรอื่นๆ อย่างชาญฉลาดและยั่งยืน
ชาญฉลาดคือ ฉลาดใช้ในทุกสถานการณ์
ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์น้ำมาก น้ำน้อย หรือน้ำเน่าเสีย
ล้วนมีปัญญาที่จะใช้ประโยชน์จากน้ำเหล่านั้น ในสถานการณ์นั้นๆ
ยั่งยืน คือใช้ได้อย่างยาวนาน
และไม่ส่งผลกระทบที่เสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ในระบบลุ่มน้ำ
โดยเฉพาะคือทรัพยากรคนและสิ่งแวดล้อม
เรามีทรัพยากรดิน น้ำ คน ฯลฯ
ในเชิงพื้นที่หนึ่งๆ ทำอย่างไรจะทำให้ทรัพยากรเหล่านี้เกื้อกูลกันได้อย่างยั่งยืน
นี่น่าจะเป็นโจทย์สำหรับนักปกครอง และนักบริหารจัดการรุ่นใหม่
ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภออย่างนายไกรสร กองฉลาด หรือนายกองค์การบริหารส่วนตำบล
อย่างนายบำรุง คะโยธา
รวมทั้งนายกรัฐมนตรี อย่าง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยิ่งต้องมีความสามารถเชิงนี้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น